Last updated: 11 ต.ค. 2566 | 1455 จำนวนผู้เข้าชม |
ก็สามารถใช้ไฟฉายส่องจากด้านข้าง เเล้วมองดีด้านก็จะเห็นระดับน้ำกลั่น
หรือหากแบตเตอรี่เป็นเเบบทึบ หรือมองจากด้านข้างไม่เห็น ก็สามารถมองได้จากด้านบน รูเติมน้ำกลั่นให้ระดับน้ำกลันเเตะระดับจุดล่างของช่องน้ำกลั่น
ปกติเเบตน้ำจะมีกรดเป็นตัวหลัก ในการทำงานกระจายตัวนำไฟฟ้า เเต่ถ้ารถไม่มีการใช้งานนาน หรือไม่ได้ประจุไฟนานเเล้วนั้นก็จะเกิดการตกตกกระกรันของน้ำกรด หรือการเกิดตะกรันสีขาวเกาะที่เเผ่นธาตุ ทำให้ไม่สามารถประจุไฟ หรือประจุไฟฟ้าได้น้อย
รถยนต์จะมีไดชาร์จ ทำหน้าที่ในการประจุไฟเข้าแบตเตอรี่ เมื่อมีการสตาร์ทหรือ รถวิ่ง เเละอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดก็ดึงไฟจากไดชาร์จ เช่น ไฟเลี้ยว ไฟหน้า เครื่องเสียง เเละอุปกรณ์ต่าง
การชาร์จไฟของไดชาร์จ จะเป็นเเบบไฟเรียบ กระเเสตรง เพื่อให้ให้ประจุไฟได้เร็วขึ้น เเละกระเเสไฟที่เข้าไปนั้นมีกระเเสคงที่ เเละกระเเสไฟไม่มาก
ด้วยการชาร์จไฟของไดชาร์จ เเผ่นธาตุไม่มีการกระตุ้น หรือไม่ได้ชาร์เเบบ กระตุ้นเเผ่นธาตุ เเบบที่เข้าใจคือ ต้องชาร์จเเบบไฟครึ่งคลื่น คือ ชาร์จไฟเเบบไฟเข้าเป็นจังหวะ เเละต้องปล่อยกระเเสไฟให้สูง ต่ำสลับกันไปเพื่อสามารถลายตะกรันสีขาวที่เกาะเเผ่นธาตุของเเบตได้ ก็จะประจุไฟได้มากขึ้นนั้นเอง
ก็เเสดงว่าเเบตมีอาการตะกรันเริ่มเกาะเเผ่นธาตเยอะเเล้ว ต้องรีบถอดไปทำการประจุไฟ หรือชาร์จที่ร้านเเบตใกล้บ้านได้ ผลเสียของการปล่อยให้ไฟหมดเกลี้ยง เเล้วพยายามสตาร์จรถหลายครั้ง ทำให้เครื่องยนต์ดึงกระเเสไฟกระชากหลายครั้ง อาจทำให้แผ่นธาตเสียหายหรือทะลุ ด้าน ประจุไฟไม่ได้จะทำให้ฟื้นฟูไม่ได้เลย
หรือท่านเจ้าของรถหมั่นเช็คระดับน้ำกลั่นได้เอง หมั่นดูอย่างต่อเนื่องเพื่อยืดอายุการใช้งานของเเบตเตอรี่ให้นานขึ้นอาจถึง 3-4 ปี เลยที่เดียว หมั่นสังเกตุหากสตาร์จรถยากเเล้วให้นำไปชาร้จไฟ ประจุไฟตามร้านเเบตเตอรี่ทั่วไป
ที่ตั้งอยู่เขตเทศบาลนครแหลมฉบัง ต.ทุ่งศุขลา
พิกัดร้าน Google Maps
โทร 083-1880919